“กรุงเทพฯ” อันดับ 13 จุดหมายปลายทางอาหารยอดเยี่ยมที่สุด

“กรุงเทพฯ” อันดับ 13 จุดหมายปลายทางอาหารยอดเยี่ยมที่สุด

“ทริปแอดไวเซอร์” จัดอันดับสุดยอดจุดหมายปลายทางด้านอาหาร (Best Food Destinations) ของโลกประจำปี 2566 โดยกรุงเทพฯ ติดอันดับที่ 13 พร้อมเชิญชวนให้นักเดินทางต่างชาติได้ลองชิมข้าวเหนียวมะม่วงชื่อดัง
เว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์ (TripAdvisor) ด้านการท่องเที่ยวจากสหรัฐยังได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นตลาดน้ำอันโด่งดัง แหล่งชอปปิงระดับพรีเมียม เช่น ประตูน้ำและสยาม หรือข้ามไปฝั่งธนบุรีซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดอรุณ และเชิญแวะเที่ยวพระบรมมหาราชวังที่งดงามในเขตพระนคร

กรุงเทพ

ส่วนจุดหมายปลายทางด้านอาหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก 10 อันดับแรก ได้แก่

1.กรุงโรมของอิตาลี

2.เกาะครีตของกรีซ

3.กรุงฮานอยของเวียดนาม

4.เมืองฟลอเรนซ์ของอิตาลี

5.กรุงปารีสของฝรั่งเศส

6.เมืองบาร์เซโลนาของสเปน

7.กรุงลิสบอนของโปรตุเกส

8.เมืองเนเปิลส์ ของอิตาลี

9.เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนาของประเทศสหรัฐ

10.ประเทศจาเมกา

อ่านข่าวอาหารที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : สีผสมอาหารในสายไหม

สีผสมอาหารในสายไหม

สายไหม ของหวานทานเล่นที่ผลิตจากน้ำตาลนำมาปั่นขึ้นมาให้เป็นเส้นบางเบา ลักษณะคล้ายก้อนเมฆ รสหวาน มีหลากหลายสี

สมัยก่อนมักขายตามงานวัด ปัจจุบันมีวางขายทั้งตามงานวัด ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ไปจนถึงตลาดนัดต่างๆ สายไหมสามารถทานเปล่าๆ หรือจะม้วนแล้วทานคู่กับแป้งโรตีก็ได้ แล้วแต่ความชอบ ด้วยความที่เป็นของหวานและต้องการให้มีสีสันสวยงามหลากหลาย

ผู้ผลิตสายไหมจึงเติมสีผสมอาหารลงไปทั้งสีเขียว ฟ้า เหลือง ชมพู ม่วง ส้ม เพื่อดึงดูดใจผู้ซื้อโดยเฉพาะเด็กๆ ตามกฎหมายอาหารไทยอนุญาตให้ใช้สีผสมอาหารได้แต่ต้องใช้ตามชนิดที่อนุญาตและ ตามปริมาณที่กำหนดเท่านั้น สีที่ใช้ในสายไหมนั้นเป็นสีสังเคราะห์หากใช้ในปริมาณไม่มากเมื่อเราได้รับเข้าสู่ร่างกายโดยการทานสายไหม ร่างกายจะกำจัดออกได้เองโดยการขับถ่าย

สีผสมอาหารในสายไหม

แต่หากผู้ผลิตเติมสีสังเคราะห์ในปริมาณสูงมากๆ เมื่อเราทานเข้าไปก็จะส่งผลเสียต่อร่างกาย เช่น ระบบทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร เพราะสีสังเคราะห์ส่วนใหญ่มีโลหะหนัก เมื่อเข้าสู่ร่างกายไปสู่กระเพาะอาหารจะไปเกาะตัวตามผนังกระเพาะ เกิดปัญหาต่อระบบดูดซึมอาหาร ทำลายระบบน้ำย่อยในกระเพาะ หากสะสมมากเป็นระยะเวลานานอาจเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง ทำร้ายตับไตได้

สถาบันอาหารได้สุ่มตัวอย่างสายไหมจำนวน 5 ตัวอย่าง จาก 5 ร้านค้าในตลาดย่านต่างๆในเขต กทม. และต่างจังหวัด พบมีการใช้สีผสมอาหาร 4 ตัวอย่าง ซึ่งปริมาณที่พบยังอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด เห็นอย่างนี้แล้ว ขอเตือนว่าทานได้ แต่ไม่ควรทานบ่อยๆ หรือทานปริมาณมากๆ เพื่อความปลอดภัยในระยะยาว

อ่านข่าวเพิ่มเติม : บอแรกซ์กับลูกชิ้นทอด

บอแรกซ์กับลูกชิ้นทอด

บอแรกซ์กับลูกชิ้นทอด

อาหาร

ลูกชิ้นทอดอาหารทานเล่นที่หาซื้อได้ง่ายทั้งในศูนย์อาหาร ร้านค้า รถเข็นริมทางหรือสตรีทฟู้ด หรือแม้กระทั่งร้านค้าในปั๊มน้ำมัน เพราะเป็นของทานง่าย อิ่มท้อง ที่สำคัญราคาย่อมเยาทุกคนเข้าถึงได้ ลูกชิ้นมีส่วนผสมหลักคือ เนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ เช่น หมู เนื้อ ไก่ หรือปลา แป้งและอาจผสมเครื่องเทศด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติ ปัจจุบันมีพ่อค้า แม่ค้าบางรายมีการนำบอแรกซ์หรือที่เรียกกันว่าน้ำประสานทอง ผงกรอบ ผงเนื้อนิ่ม สารข้าวตอก และผงกันบูด มาเติมลงในลูกชิ้นเพื่อให้ลูกชิ้นกรอบและกันเสีย สารบอแรกซ์เป็นสารที่อันตรายต่อทุกส่วนของร่างกาย

เมื่อเราทานอาหารที่มีสารบอแรกซ์ปนเปื้อนจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด หากได้รับเป็นประจำจะทำให้เกิดการสะสม ทำให้เกิดความผิดปกติของไต กระเพาะอาหาร และลำไส้อักเสบ สมองบวมช้ำ หากได้รับในปริมาณมากจะทำให้อาเจียนเป็นเลือดได้ ลองสังเกตง่ายๆว่าหากซื้อลูกชิ้นทอดจากร้านใดมาทานแล้วพบว่า ลูกชิ้นเด้งหรือกรอบมากๆก็ให้สันนิษฐานได้เลยว่าอาจมีการเติมสารบอแรกซ์ลงไป ตามกฎหมายอาหารของไทยกำหนดให้บอแรกซ์เป็นสารที่ห้ามใช้ในอาหาร วันนี้ สถาบันอาหารได้เก็บตัวอย่างลูกชิ้นทอดจำนวน 5 ตัวอย่าง จาก 5 ร้านค้าที่วางขายตามตลาดในเขตกรุงเทพฯ เพื่อนำมาวิเคราะห์หาสารบอแรกซ์ปนเปื้อน ผลปรากฏว่าลูกชิ้นทอดทั้ง 5 ตัวอย่าง ไม่พบสารบอแรกซ์ปนเปื้อนเลย.