ฟังชัดๆ! ปราปต์ปฎล เปิดใจปมจ่อแถลงข่าวแฉ ที่ดีเอสไอ เผยถูกที่ปรึกษาเลขาฯนักการเมืองตบทรัพย์ เผยวลีเด็ด ความยุติธรรม มันไม่ว่าผิดหรือถูก มันมีราคาของมัน
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ในรายการเจาะลึกทั่วไทย ดำเนินรายการโดยหมาแก่และแมวสาว ที่ออกอากาศทางช่อง 9 อสมท ได้สัมภาษณ์ ปราปต์ปฎล นักแสดงชื่อดัง กรณีที่จะแถลงข่าวที่ดีเอสไอในวันนี้ เวลา 10.00 น.นั้น
โดยปราปต์ปฎลกล่าวว่า ที่ผ่านมาถูกโดนกระทำ หรือใช้คำว่าตบทรัพย์ เพราะมีคนมาเรียกเก็บเงิน ก่อนไปรับทราบข้อกล่าวหาฟอกเงิน วันที่อัยการนัดส่งฟ้องศาลแฟนสาว หรือน้องกี๋ โดยศาลรับคำฟ้องควบคุมตัวเมื่อ 18 สิงหาคม ผมพยายามประกันตัวแต่ประกันไม่ได้
หลังจากนั้นน้องคนหนึ่งเป็นเพื่อนของแฟน ติดต่อมาว่าเขารู้จักกับบุคลลที่ช่วยเรื่องน้องกี๋ได้ มีอำนาจในการดำเนินการ คนคนนี้เป็นที่ปรึกษาของเลขาฯรัฐมนตรีท่านหนึ่ง เป็นที่ปรึกษา โดยนามบัตรของเลขาฯรัฐมนตรีท่านหนึ่งมีอักษรย่อว่า ธ. (เลขาฯรมต.)
คนที่เป็นที่ปรึกษาบอกว่าเป็นทนาย ฮ. ที่เราจะเห็นในสังคมทั่วไปติดตามกันอยู่ ติดต่อให้คุยกันบอกว่าจะช่วยเรื่องนี้ เดิมผมเข้าใจว่าน้องคนนี้เป็นห่วงเพื่อน ก็เลยคิดว่าเป็นความสนิทส่วนตัวที่เขาสนิทกัน เพราะไปกินข้าวกัน เลยเชื่อว่าคงจะช่วยกันจริงๆ
เพราะตอนเจรจากันเขาบอกไม่ได้มีอะไรมาก ทุกอย่างน้องกี๋ซวยเพราะเคยเป็นเมียอภิรักษ์มาก่อน เลยอยากช่วย
นัดแรกพูดกันเรื่องตัวเลขเลย ผมคิดว่าเป็นค่าทนาย พอฟังตัวเลขอึ้งเลย เพราะผมไม่เคยมีปัญหาแตะเงินขนาดนั้น มีหลักฐานเป็นข้อความแชต ผมมีหลักฐานระหว่างที่ที่ปรึกษาคนนี้กับน้องผู้หญิงที่คุยกัน และส่งมา เป็นแคปหน้าจอมาให้ ผมเลยเก็บไว้
เขามีสิทธิที่คิดว่ากี๋คงได้มาเยอะ ซึ่งผมก็เข้าใจ เพราะสื่อเองก็เข้าใจแบบนั้นว่าผมสบายเหมือนกัน ผมอยู่วงการมา 30 กว่าปี ผมรักษาชื่อเสียงผมตลอด หากทำในเรื่องเลวๆ ชั่วๆ ไม่มีใครมาเคลื่อนไหวให้ใครเห็น ผมสามารถขุดได้ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ผมได้ ตรวจสอบผมได้จากพ่อแม่พี่น้องและคนรอบข้าง ที่ผ่านมาผมนิ่งตลอด ผมไม่อยากปะทะเพราะมองว่าทุกคนเป็นพี่น้อง ผมเลยรอเวลาที่เหมาะสมในการที่จะพูด แต่สุดท้ายอาชีพหน้าที่การงานผมพัง ผมมีภาระผ่อนรถ ผ่อนคอนโด บ้านที่แม่ของลูกผมอยู่ ผมก็กระทบ เพราะผมมีรายได้ทางเดียว ผมถูกยกเลิกงานหมด เดิม 4-5 งานต่ออาทิตย์ แต่ตอนนี้ถูกยกเลิกหมด ไม่มีเงินส่งบ้านให้ลูกเลย 3-4 เดือนแล้ว เกิดวิกฤตกับตัวผม เลยทนไม่ได้ที่ถูกกระทำโดยที่ผมไม่ได้ทำ ทำไมผมต้องเกรงใจผู้ใหญ่ด้วย
หลังจากที่ได้รับติดต่อเรื่องเงิน ผมก็ไม่ได้คุยต่อ เพราะผมไม่รู้ว่าจะไปหาจากไหน น้องคนนั้นก็บอกว่าไม่คิดว่าจะหาเงินจากไหน
ผมพยายามไปไล่คิดว่าเป็นผมไหม ถ้ายังไม่ถึงเวลาผมก็ไม่พูด เพราะเขายังไม่เจาะจง ผมเลยนิ่งมาตลอด แต่หลังจากนั้นมาถึงเดือนกันยายน มันหนักหนาขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 3 ตุลาคม ข่าวหนักขึ้นเรื่อยๆ เลขาฯท่านนั้นออกข่าวและดีเอสไอด้วยว่าดาราไม่เกี่ยวข้องกับฟอเร็กซ์-3ดี แต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ผมเลยยิ่งร้อนใจเพราะใกล้เคียงผม ผมเลยโทรไปถามที่ดีเอสไอเลย เขาบอกอย่าเชื่อ และมีข่าววันที่ 4 บอกว่าถ้าไม่รับทราบข้อกล่าวหาก็จะออกหมายจับ ผมถามอีก เขาก็บอกไม่ใช่ ผมโทรถามที่ปรึกษาทางกฎหมายที่ผมไว้ใจ ให้โทรถามดีเอสไอ ในวันที่ 4 ตุลาคม เลยขอคำยืนยันเป็นเอกสาร เขายอมรับเลยว่าใช่ และส่งเอกสารหมายมาทางไลน์ในวันที่ 4 ตุลาคม
พอถึงวันที่ไปสอบสวนก็สอบถาม ร.ต.อ.วิษณุ ผอ.กอง ที่ปัจจุบันเป็นรอง ผอ.ดีเอสไอแล้ว ก็ถามในห้องสอบสวนว่าทำไมมีหมายแล้วไม่ส่งไปที่บ้าน เขาบอกว่าส่งแล้ว แต่คงเป็นเรื่องท้องที่ คงไม่ได้ส่ง ผมบอกว่าทุกคนอยู่บ้าน เพราะงั้นอย่าพูดว่าคนท้องที่ไม่ส่ง แต่ผมถามว่าทำไมไม่บอกทั้งที่โทรมาถาม แล้วส่งหมายทางไลน์ และหมายไม่ได้อยู่ที่นั่นแต่ถูกลงชื่อโดยเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่โดน ม.157 ตอนนั้น ผอ.เค พงศธร
เขาบอกว่าผมขับรถจากที่หนึ่งไปที่หนึ่ง เหมือนเอาไปซ่อน ข้อเท็จจริงคือน้องใช้รถคันนี้และผ่าตัดอยู่ที่บำรุงราษฎร์ ในตอนที่ผ่าตัดคือเพื่อนกะเทยเอารถไปส่ง ไม่ได้อยู่ที่บ้านผม จอดอยู่ที่คอนโดน้องเขา แต่ตอนเขาอยู่ รพ.เพื่อนกะเทยพาไปส่ง รพ.ให้ผมไปรับช่วงต่อดูแล และกะเทยบอกว่าของในห้องอย่ากลับมา เขายึดหมดแล้ว เพราะเขาก็ถูกโกงมา แฟนผมก็เลยให้น้องเข้าบ้าน แต่เข้าไม่ได้ กลัวว่ากะเทยจะขับรถไปขาย เลยให้ผมไปเอารถมา เลยเอารถไปจอดบ้านเพื่อนผม ไม่ใช่พ่อ แต่เรื่องราวว่าพอผมพาน้องออกจาก รพ.ก็พาน้องไปแจ้งความที่สุทธิสาร และน้องกะเทยคนนั้นก็ซัดทอดไปที่ดีเอสไอด้วยว่าไปเอาทรัพย์ที่ห้องนั้น
สรุปคือกะเทยคบคิดกับดีเอสไอไปเอาทรัพย์ แต่ดีเอสไอบอกว่าเขามีอำนาจในการดำเนินการ แต่ทางผมบอกว่าผมแจ้งความกะเทย ไม่ได้แจ้งดีเอสไอ คุณไปเอาของหรือรถ กรกฎาคม 2563 แต่มาแจ้งความว่าผมยักยอกทรัพย์ปี 2565 แล้วน้องที่ไปยึดรถไม่ถูกแจ้งข้อหาใดๆ ทั้งสิ้น การเคลื่อนย้ายของผมก็เข้าใจได้ เพราะยังไม่มีแจ้งความ ขณะที่อภิรักษ์ถูกดำเนินคดีตั้งแต่ปี 2562 ยึดรถก็ไม่แจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็นของอภิรักษ์
ผมมองว่าวิธีการทำงานมันเป็นการผิดปกติ วลีเด็ดของพวกเขาก็คือ ความยุติธรรม มันไม่ว่าผิดหรือถูก มันมีราคาของมัน
ติดตามข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ : จ่าอากาศโท ขี่รถเสียหลักพุ่งเสยทางเท้า หัวฟาดตอม่อดับ สาวซ้อนท้ายสุดช็อก เพิ่งรู้จักในผับ